โหรวสุ ทำนาย ‘รัฐบาลอิ๊งค์’ อยู่ยาว ชี้ ปีหน้าบททดสอบอยู่ครบเทอมหรือไม่ เตือน 3 เดือนสุดท้ายระวังเกิดอุบัติเหตุใหญ่ แนะ ‘ทักษิณ’ อยู่เบื้องหลัง-อย่าออกหน้า
เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. จึงเป็นที่จับตาว่า ปีมะโรงไฟ 2567 ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะมีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้นบ้าง
โหรวสุ วสุวัส คำหอมกุล โหราศาสตร์ชื่อดังของเมืองไทย ทำนายดวงการเมืองไทย โดยจะไม่มีรัฐประหารเกิดขึ้นแน่ รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจ ไว้ดังนี้
3 ดวงดาวพักมีเหตุร้ายเกิดขึ้นเยอะ
ช่วงนี้ดาวอังคารก็ถอยหลัง ดาวพฤหัสก็ถอยหลัง ดาวเสาร์ก็พัก ปกติไม่เคยมีดาว 3 ดวง ที่โคจรผิดปกติพร้อมกันแบบนี้ จึงทำให้มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นค่อนข้างเยอะ เช่น ถ้าดาวอังคารก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับอุบัติเหตุ อุทกภัยต่างๆ ที่เคยเกิดหนักๆ ก็จะกลับมาเกิดแล้วหนักกว่าเดิม
ส่วนดาวพฤหัส คนที่เคยมีหน้ามีตามีชื่อเสียง ก็จะโดนขุดเรื่องเก่าๆ หรือเรื่องอะไรที่ปกปิดเป็นความลับแล้วไม่ดี จะถูกนำออกมาแฉกัน ซึ่งเรื่องนี้จะโดนกันทุกวงการ ตอนนี้วงการดาราเริ่มก่อน ต่อไปอาจจะมีวงการนักวิชาการหรือครู อาจารย์ แพทย์ ตุลาการ ผู้พิพากษา ก็จะตามมาอีกเยอะ ตอนนี้แค่จุดเริ่มต้น
ดาวเสาร์พัก ก็จะมีปัญหาในเรื่องเกี่ยวกับหน่วยราชการที่ยังต้องทำงานบริการประชาชน จะค่อนข้างเกียร์ว่าง ตอนนี้คิดว่าข้าราชการน่าจะทำงานช้ากว่าปกติ แต่โชคดีที่มีอาสาสมัครเยอะ ตอนนี้ดวงเมืองเหมือนกับประชาชนต้องช่วยตัวเอง ส่วนรัฐบาลก็พึ่งพาได้นิดหน่อย เพราะเพิ่งเข้ามาทำงาน และยังมาทำงานตอนดาวพัก ดูแล้วแม้มีอำนาจ ก็ยังสั่งงานอะไรไม่ค่อยเต็ม
ไม่มีรัฐประหาร-รัฐบาลอยู่ถึงก.ย.ปีหน้า
ส่วนที่คนเขาลือกันว่า จะมีเรื่องรัฐประหาร ผมคิดว่าคงไม่มี เพราะเคยพูดไว้แล้วว่าดาวอังคารขณะนี้ ทหารไม่มีกำลัง ดูง่ายๆ ที่ทหารออกมาช่วยน้ำท่วม ทั้งที่ออกมาช่วยมากแต่ออกสื่อน้อย ทำให้คนชื่นชมน้อยมาก
ผบ.ทบ.แทบไม่เห็นหน้าเลย ทั้งที่ปกติไม่เคยมีแบบนี้ เป็นเพราะดาวอังคารถอย คนที่เป็นทหาร ตำรวจ ออกทีวีมากก็ไม่ดี และจะทำงานไม่ค่อยดีด้วย ดังนั้นช่วงนี้คือคนที่จะเข้ามามีบทบาทจะเป็นพวกเอกชนและประชาชนทั่วไป มูลนิธิต่างๆ เสียมากกว่า
ส่วนเหตุการณ์บ้านเมืองตอนนี้ ผมดูแล้ว รัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยังอยู่ต่อไปได้ถึงประมาณเดือนก.ย.2568 ไม่น่าจะมีอุบัติเหตุอะไร เพราะดวงดาวเป็นแบบนี้ ดาวพฤหัสถอยหลัง ตอนนี้ตุลาการก็ไม่กล้าออกมาตัดสินอะไร เรื่องที่มีการร้อง เขาก็แช่ไว้
แต่ประเด็นสังคมที่มาทำกันตอนนี้ ผมมองว่าผิด ไม่มีประโยชน์ เพราะศาลเขาไม่ออกมาทำอะไรแล้ว ศาลเพิ่งตัดสิน นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ไปเพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ดาวพฤหัสขยับครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นดาวพฤหัสพักและถอยหลัง ดังนั้น ถ้าศาลออกมาทำอะไรตอนนี้ กระแสเขาไม่ดี
ดูได้เลยตอนนี้คดีใหญ่ใหญ่ที่เป็นคดีการเมือง ตุลาการจะเลื่อนพิจารณา แต่จะเอาคดีที่ไม่เป็นประเด็นทางสังคมมาทำก่อน แต่คดีที่เป็นประเด็นสังคม สื่อจับตาเยอะจะพักเลยคือ ศาลไม่อยากให้เป็นประเด็น เพราะถ้าเป็นประเด็นตอนนี้ก็เสียเปรียบเพราะเป็นไปตามดวงเมือง ตอนนี้จึงเงียบๆ และเป็นปัญหาว่า มีคนมาทวงถามคดีเก่าๆ ว่าทำไมไม่ขยับรออะไร ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของดวงเมืองในช่วงนี้
ส่วนตำรวจ ทหาร ตอนนี้ออกสื่อมากไม่ได้ และไม่ค่อยมีกำลังไปพูดอะไรกับใครก็ไม่ค่อยมีใครเชื่อ อันนี้ถือว่าดาวถอยหลังเลย หนักกว่า
ปีหน้าบททดสอบอยู่ครบเทอมหรือไม่
ช่วง 3 เดือนนี้ การเมืองจะบอกว่าร้อนแรง ถ้าจะมี ก็เป็นเพราะดาวพุธที่โคจรมาอีก ตอนนี้มีข่าวการจับผิดนายกฯ เรื่องคำพูด และตอนนี้จะมีแต่เรื่องเฟกนิวส์ เรื่องข่าวลือ ประเด็นที่โจมตีกัน แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่จะขยายเป็นเรื่องใหญ่เพราะคำพูดและเฟกนิวส์ ซึ่งกลายเป็นว่าคนไปโฟกัสตรงนี้เยอะ
ผมพูดตรงๆ ว่าตรงนี้ไม่ดี กลายเป็นการโฟกัสในสิ่งที่ไม่ได้เป็นสาระของการเมือง จริงๆ แล้วผมห่วงเรื่องเศรษฐกิจมากกว่า เพราะดาวพัก ถ้าลองไปสังเกตดูเรื่องนักท่องเที่ยว คิดว่าเศรษฐกิจไม่น่าจะโตตามที่รัฐบาลคาด
การที่รัฐบาลน.ส.แพทองธาร จะอยู่ครบเทอมหรือไม่ ต้องไปดูช่วงประมาณหลังเดือนก.ย.ปีหน้าเป็นต้นไป จนถึงปี 2569 นั่นคือบททดสอบจริงๆ เพราะตอนนั้นดาวอังคารจะมา ม็อบปีหน้าจะแรงกว่านี้ ตอนนี้ผมบอกได้เลยว่าม็อบไม่แรงไม่มีใครอยากไปม็อบ เพราะมันจุดไม่ติด เพราะคนเบื่อ เนื่องจากดวงเมืองพักแบบนี้ คนจะหันไปหาความบันเทิงเยอะ
ห่วงเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งรอบสอง
สิ่งที่น่ากลัวคือ เรื่องเศรษฐกิจเพราะถ้าโฟกัสไม่ได้ ต้นปีน่าจะลำบาก ผมทายดวงเมืองแล้ว ครึ่งปีแรกของปีหน้าบอกได้เลยว่าประมาทไม่ได้ อาจจะเกิดวิกฤตแบบต้มยำกุ้ง รอบ 2 หรืออาจจะหนักกว่าก็ได้
ตามดวงเมือง ปีหน้าอุตสาหกรรม ที่รับจ้างผลิต รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีการผลิตแล้วส่งออกจำนวนมาก เช่น บริษัทญี่ปุ่นที่เป็นบริษัทใหญ่ ปีหน้าเขาอาจจะปิดโรงงานแล้วถอนทุน ซึ่งมีผลต่อการจ้างงาน และมีผลต่อรายได้ของประเทศ
กลายเป็นว่ารัฐบาลต้องพยายามหาทางกระตุ้นตลาดรถยนต์ใหม่ ไม่ใช่ไปเอาแต่รถอีวีจากจีน รัฐบาลต้องมาดูว่าโรงงานญี่ปุ่นที่ตั้งในเมืองไทยมา 20-30 ปี ทำอย่างไรให้เขาอยู่รอด เพราะตอนนี้รถจีนไม่มีภาษีนำเข้า แต่ผมคิดว่าประเด็นนี้น่าสนใจมากกว่า เพราะเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ต้องโฟกัสมากที่สุด
ขณะที่ระบบราชการตอนนี้ค่อนข้างทำงานช้า ไม่มีใครกระตุ้น เพราะรัฐบาลมัวมานั่งแก้ข่าวรายวันจากคลิปคนจับผิด ไม่ไปโฟกัสแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ผมว่าอันตรายมากในปีหน้า
3 เดือนสุดท้ายระวังเกิดอุบัติเหตุใหญ่
ช่วง 3 เดือนก่อนสิ้นปี หากถามว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรรุนแรงหรือไม่ น่าจะเกี่ยวกับการเดินทางทุกประเภท ผมเตือนตั้งแต่เดือนส.ค.แล้ว ตั้งแต่ดาวเสาร์ ดาวอังคารทำมุมแบบนี้ การเดินทางทุกอย่างต้องระวังหมด เช่น เครื่องบิน จะเกิดอุบัติเหตุบ่อยตกหลุมอากาศ เครื่องบินเสีย ถ้าโชคร้ายก็ตกเลย ซึ่งมีเครื่องบินเล็กตกไปแล้ว และเกิดทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะเมืองไทย
โดยเฉพาะใครที่บินไปต่างประเทศไปตะวันออกกลาง ยุโรป ต้องระวังกระเป๋าเดินทางอาจไปไม่ถึงพร้อมตัวคุณ ผมกล้าทำนายเลย ซึ่งจะมีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับการบินและมีคนเสียชีวิตค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นเครื่องบินใหญ่
ดังนั้น ต้องระวัง อาจจะโชคดี ไม่ได้เกิดในประเทศไทย แต่ถ้าเป็นรอบนอกอย่างประเทศเพื่อนบ้านหรือสายการบินต่างประเทศบินเข้ามาตกในไทย ก็ต้องระวังเหมือนกัน อาจจะมีก็ได้ในช่วงปลายปี เพราะเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ เรียกได้ว่าคนที่ทำงานด้านการบินอาจจะเกิดความผิดพลาดได้ เพราะอังคารพัก บางทีทำอะไรสะเพร่า ไม่ตรวจสอบให้เรียบร้อยก็จะมีปัญหา
อีกอันคืออุบัติเหตุรถยนต์ ไฟไหม้รถทัศนศึกษาก็ส่วนหนึ่ง แต่ผมมองว่ายังไม่จบ จะมีอุบัติเหตุประเภทที่ขับรถไปต่างจังหวัดแล้ว เหมือนเจออุบัติเหตุรถชนรถคว่ำ หรือรถบรรทุกก๊าซขนาดใหญ่ชนแล้วระเบิด จะมีคนเสียชีวิตเพิ่ม อย่างไรก็ต้องระวังช่วงก่อนถึงปีใหม่ รวมถึงอุบัติเหตุทางเรือ ใครขึ้นเรือตอนนี้ เรือไฟไหม้ เรือล่ม เรือจมมีเยอะ รวมทั้งโป๊ะแตกโป๊ะล่ม จะมีในช่วงเดือนต.ค. พ.ย. และธ.ค.
ฉะนั้น ถ้าใครจะเดินทางทางเรือ ต้องใส่ชูชีพและทำประกันการเดินทางเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน โดยไม่ต้องสนใจเรื่องดวง และหากบางคนดวงไม่ดีก็ไม่ควรจะไปเที่ยว จึงต้องระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ทั้งทางเครื่องบิน รถ เรือ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต จะกลายเป็นภาพลบของประเทศไทย และส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ
ปีหน้าปัญหาเยอะ-ลุ้นรัฐบาลอยู่ถึงปี 69
ถ้าดวงเมืองขยับเป็นปกติ ทุกอย่างเดินหน้าตามที่ควรจะเป็น คือข้าราชการทำงาน ตุลาการทำงาน น่าจะเป็นเดือนพ.ค.ปีหน้า
ต้องบอกว่า ดวงดาวโคจรผิดปกติที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 49 เมื่อปี 49 เคยมีดาวอังคาร ดาวเสาร์ พักแค่ 2 ดวง พักยาว 8 เดือน และพอพักเสร็จก็เกิดรัฐประหารเลย อันนี้ก็เหมือนกันพักยาว 8 เดือนแต่ดาวพักเยอะกว่าคือ 3 ดวง พฤหัส อังคาร เสาร์
ผมจึงมองว่าถ้าจะพิสูจน์ว่ารัฐบาลนี้อยู่ยาวถึงปี 2569 หรือไม่ ต้องรอหลังเดือนก.ย.ปีหน้า ซึ่งไม่แน่อาจจะมีรัฐประหาร แต่ไม่ใช่แบบเก่า อาจมีกลไกอะไรบางอย่างที่มาเป็นรัฐประหาร แต่ไม่ใช่ใช้ทหารแบบเก่าก็ได้
ต้องดูว่าเมื่อถึงตอนนั้น จะเกิดอะไรขึ้น รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญที่ยังมีคดีค้างอยู่ อาจจะไปเริ่มตอนนั้นพอดีเพราะกระแสมา แต่หากถามว่าจะเกิดเหมือนรัฐประหารหรือไม่ ผมว่าอาจจะไม่ใช่รัฐประหาร แต่จะมีกระบวนการล้มรัฐบาลซึ่งจะทำให้ น.ส.แพทองธาร อยู่ไม่ถึงปี 2569
แต่หากน.ส.แพทองธาร อยู่ไม่ถึง ก็ไม่ดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพราะตอนนี้รัฐบาลยังโฟกัสไม่ค่อยเต็มที่ ปีหน้าปัญหาก็จะมาอีกเยอะ ดังนั้น หากปัญหายังไม่ทันแก้แล้วเกิดรัฐประหารอีก ประเทศจะกลายเป็นแบบเวเนซุเอลา และคนที่เข้ามาใหม่ หลังจากรัฐบาลน.ส.แพรทองธาร ก็ทำได้ไม่ดีเพราะปัญหาเยอะแล้ว
ถ้าพูดกันตรงๆ ผมคิดว่าควรจะรักษารัฐบาลให้อยู่ครบเทอม เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุน รัฐบาลจะต้องทำตามสัญญาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าเราไม่ทำตรงนี้ แล้วรัฐบาลใหม่มาไม่เอานโยบายเดิม เพราะประชานิมยมมากไป แต่เศรษฐกิจจมไปแล้วไม่ฟื้นแล้ว ก็จะมีปัญหาอยู่ดี
แนะ‘ทักษิณ’อยู่เบื้องหลัง-อย่าออกหน้า
อย่างไรก็ตาม ดวงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แม้จะดวงเข็งแต่ก็ช่วยลูกไม่ได้ จริงๆ เขาควรจะอยู่เงียบๆ ทำอะไรไม่ต้องออกสื่อ จะไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องให้สัมภาษณ์ ให้ลูกจัดการคนเดียว เอาลูกมาบังหน้าให้หมด ก็จะไม่มีเรื่องที่มีคนไปยื่นฟ้องเลย แต่เมื่อนายทักษิณออกหน้าก็เป็นไปตามที่ผมทำนาย
ตอนนี้ดวงของนายทักษิณ สามารถค้ำลูกได้ แต่ต้องไม่ออกหน้า เพราะดวงลูกก็มีดาวเหมือนพ่อ ฉะนั้น พ่อต้องอยู่เบื้องหลังแล้วให้ลูกทำ
